ผงะ!! ลอบเผาอ้อยทั่วประเทศลุกลามเฉียด 30% เปิด 5 จังหวัดเผาสูงสุด เตือน 16-17 ม.ค.ฝุ่นพิษปกคลุมกรุงเทพฯ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงนี้คุณภาพชีวิตคนไทย โดยเฉพาะชาวกรุงเทพ จะกลับสู่วงจรเดิมๆ ที่ต้องระแวดระวังฝุ่นพิษ พีเอ็ม 2.5 กันอีกครั้ง
ฝุ่นพิษซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคระบบทางเดินหายใจ และอาจซ้ำเติมสถานการณ์ที่ยังต้องเผชิญกับโควิด-19
สาเหตุของฝุ่นพิษมาจากการหลายสาเหตุ อาทิ เผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง การเผาไหม้จากพื้นที่้เกษตร ควันรถยนต์ โรงงาน โรงไฟฟ้า ฯลฯ
ล่าสุด กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 12 – 18 มกราคม 2566 ดังนี้
วันที่ 12 – 15 มกราคม 2566 จะมีแนวโน้มสถานการณ์ที่ดีในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากอากาศที่เปิดมากขึ้นประกอบกับลมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรงเข้าช่วย ประกอบกับวันที่ 12 จะมีโอกาสพบฝนตก 10-20 % ของพื้นที่
ขณะที่พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานช่วง 13 – 15 มกราคม 2566 แต่ควรเฝ้าระวังบริเวณภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะช่วงวันที่ 12 และ 16-17 มกราคม 2566
โดยวันที่ 16-17 มกราคม 2566 พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่ง และปิด โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือและใต้
จะเห็นว่าคุณภาพอากาศเริ่มยกระดับความรุนแรงขึ้น!!
ล่าสุดตรวจสอบข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม พบข้อมูลที่น่าตกใจ
เพราะตั้งแต่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เริ่มหีบอ้อยฤดูการผลิต 2565/66 หมายถึง เกษตรกรชาวไร่อ้อยเริ่มตัดอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลเพื่อผลิตน้ำตาลทราย ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 ถึง วันที่ 10 มกราคม 2566
มีอ้อยถูกตัดเข้าโรงงานแล้วถึง 26 ล้านตัน ในจำนวนนี้เป็นอ้อยที่ถูกลักลอบเผาสะสมสูงถึง 7.4 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วนการลักลอบเผาถึง 28.22% เกือบ 1 ใน 3 ของอ้อยทั้งหมดที่ถูกตัดแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้ยังพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 ถึง วันที่ 9 มกราคม 2566 มีการลักลอบเผาอ้อยสูงสุดใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย
1.นครราชสีมา 1 ล้านตัน
2.อุดรธานี 0.64 ล้านตัน
3.กาฬสินธุ์ 0.61 ล้านตัน
4.ขอนแก่น 0.52 ล้านตัน
5.หนองบัวลำภู 0.43 ล้านตัน
จากตัวเลขข้างต้นน่าเป็นห่วงประชาชนใน 5 จังหวัดดังกล่าวว่าจะต้องหายใจสูดดมฝุ่นที่เกิดจากการเผาไหม้มากมายขนาดไหน ยังไม่นับรวมฝุ่นพิษจากสาเหตุอื่นๆ
อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับการชี้แจงว่า การลักลอบมีทั้ง 1.ชาวไร่สู้ต้นทุนการตัดสดไม่ไหว จึงจำเป็นต้องเผา 2.ชาวไร่ลักลอบเผาเอง และ3.โรงงานน้ำตาลสนับสนุนให้ชาวไร่เผา
เหตุผลด้านต้นทุน เชื่อว่าเรื่องนี้มีทางออก ทั้งโรงงานและกระทรวงอุตสาหกรรมควรสร้างเครื่องมือเข้าสนับสนุนที่เป็นธรรมทุกฝ่าย
ส่วนเหตุผลตั้งใจเผา รวมทั้งโรงงานสนับสนุนนั้น เรื่องยอมรับไม่ได้
ดังนั้นภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรจะบูรณาการเดินหน้าแก้ปัญหาเร่งด่วน
เพื่อจัดการคนผิดทั้ง “ชาวไร่ และโรงงานน้ำตาล” อย่างจริงจัง!!
อ่านข่าวน่าสนใจ
- ว่อนโซเชียล วาร์ปภาพคู่ ‘อดีตรองนายกฯ-ชู้รัก’ หลังดราม่าแซ่บสนั่น
- สั่งฟ้องยกครัวกิ๊ก อดีตรองนายกฯ “ย.” คดีฉ้อโกง พร้อมออกหมายจับพ่อสาว
- ณัฐวุฒิ ลาออกเพื่อไทย พ้อไม่เห็นค่า ถ่อมตัวไม่กล้าขอซบ ทสท. ยันเดินหน้าลง ส.ส.เขตต่อ
- เศรษฐกิจซบหนัก ‘ชาวนา-เจ้าของธุรกิจ’ แห่ขายที่ดิน ทรัพย์สิน ดัมพ์ราคาแหลก
- หนุ่มกินซอยจุ๊ถี่ เจอลูกกระจ๊อก ‘พยาธิ’ จัดยาถ่าย เช้ามารู้เรื่อง ‘ตัวตืด 2 เมตร’ จุกๆ (คลิป)
- ราศีใดจะได้พบเจอกับเหตุเหนือธรรมชาติ หรือสิ่งที่อธิบายไม่ได้