ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู บริเวณที่เกิดเหตุกราดยิงภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้ จากอดีตตำรวจ สภ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองและครอบครัว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 37 ราย บาด เจ็บอีก 12 ราย ซึ่งสาเหตุแห่งปัญหาที่เกิดขึ้น ได้มาจากปัญหาของยาเสพติด
ในวันนี้ พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบ.ก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้ร่วมกับ อบต.อุทัยสวรรค์ หน่วยงานราชการในพื้นที่ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ญาติพี่น้องผู้สูญเสีย ชาวบ้านและพระสงฆ์ ได้ร่วมกันทำพิธีไว้อาลัย วางดอกไม้ ให้คำมั่นสัญญาในการที่จะดำเนินการปราบปรามยาเสพติดของชุมชนยั่งยืนแบบครบวงจร และส่งดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต
ซึ่งขณะที่ร่วมพิธี พ่อแม่ผู้ปกครอง ญาติพี่น้อง ผู้ร่วมงานต่างยังรู้สึกสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนสุดที่จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่ก็ได้บอกให้ดวงวิญญาณของลูกหลานญาติพี่น้องที่จากไป ขอให้ไปอยู่บนสรวงสวรรค์ ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ ขอให้กลับมาเกิดใหม่ที่ดีกว่านี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู จะได้เริ่มโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ซึ่งได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน เช่น มหาดไทย สาธารณสุข ทหาร พระสงฆ์ เพื่อทำการค้นหาผู้ค้า ผู้เสพ ผู้ป่วยจิตเวชจากการเสพยาในชุมชน โดยจะใช้พลังของชุมชนในการร่วมมือกันอย่างจริงจัง ที่จะจัดการปัญหายาเสพติดภายในชุมชน โดยเฉพาะตำบลอุทัยสวรรค์ สถานที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง และจะขยายไปยังชุมชนอื่นๆ เพื่อที่จะทำให้จังหวัดหนองบัวลำภู ปลอดจากยาเสพติดแบบยั่งยืน และเป็นจังหวัดสีขาวจังหวัดแรกของประเทศไทย
จากนั้น ในช่วงค่ำที่บริเวณศาลากลางบ้าน หมู่บ้านอุทัยสวรรค์ ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ชาวบ้านหมู่บ้านอุทัยสวรรค์ หมู่ 1 และหมู่ 12 ทุกครัวเรือนประมาณ 200 คน ได้มาร่วมกันสร้างธรรมนูญหมู่บ้าน ในการสร้างกฎกติกา เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู โดยมี พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบ.ก.ภ.จว.หนองบัวลำภู มาเป็นประธานในการจัดกิจกรรม โครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ร่วมกับวิทยากรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ชาวบ้านได้ร่วมกันมองเห็นปัญหายาเสพติด สร้างกฎกติกาของหมู่บ้านชุมชน ค้นห้าผู้ค้าผู้เสพ ผู้ป่วย โดยความร่วมมือของชาวบ้านทุกครัวเรือน นำเอาคนเสพไปบำบัดรักษา คนขายจับกุมดำเนินคดี เพื่อที่จะคัดเอาคนไม่ดีออกจากสังคม ซึ่งได้มีพระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ ร่วมลงบันทึกข้อตกลงและยังร่วมบริจาคเงินให้เป็นกองทุนในการดำเนินกิจกรรม
นอกจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้มีการแจกซองผ้าเบาะแสข้อมูลผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดในหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านที่เข้าร่วมได้ให้ข้อมูล และยังมีการให้คิวอาร์โค้ด ไปกับชาวบ้านเพื่อที่จะได้สะดวกต่อการแจ้งเบาะแสของยาเสพติด ซึ่งชาวบ้านที่เข้าร่วมหลังจากรับฟังแนวทางหลักการของการดำเนินการแล้ว ก็อยากจะให้ทำการช่วยเหลือลูกหลาน ที่มีลักษณะอาการป่วย พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ ในการที่จะทำให้ชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด เป็นชุมชนสีขาว
ทางด้าน พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบ.ก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ได้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว พบว่ามีสาเหตุหรือปัจจัยที่ก่อให้เกิดเหตุ คือ เกิดจากสภาพจิตใจที่ผิดปกติและสภาวะความเครียดสะสม ประการที่สอง พบว่าผู้ก่อเหตุมีประวัติการใช้ยาเสพติด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อภาวะสุขภาพ จนกระทบต่อหน้าที่การงาน นำไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจ สัมพันธภาพของครอบครัวและสังคมรอบข้าง
ทางตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู จึงได้จัดทำโครงการชุมชนยั่งยืน โดยอาศัยหลักการมีส่วนร่วมของชุมชน มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดในเชิงคุณภาพ โดยยึดหลัก ผู้เสพคือผู้ป่วย จะต้องได้รับการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ได้รับการดูแลช่วยเหลือให้สามารถ ลด ละ เลิก หรือเลิกใช้ยาเสพติดได้อย่างถาวร เพื่อสร้างให้เป็นคนดี สามารถกลับคืนสู่สังคมได้ และจะได้สร้างให้จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นจังหวัดปลอดยาเสพติดให้ได้เป็นจังหวัดแรกของประเทศ
ตอนนี้การดำเนินโคงการดังกล่าวได้เริ่มมาแล้ว กว่า 70 หมู่บ้านชุมชน นำผู้เสพ มาทำการบำบัดรักษาจำนวนเกือบ 800 คน เป็นคดียาเสพติด 500 กว่าคดี ซึ่งจากการมาที่นี่แล้ว ดูแววตาของชาวบ้านเหมือนกับเห็นแสงสว่าง สอบถาม ชาวบ้านมีความหวัง มีความต้องการที่จะให้เรามาช่วยเหลือในเรื่องนี้อย่างจริงจัง พวกผมเองก็ได้ปวารณาตัวแล้วที่จะลงมาช่วยเหลือ ให้ชาวบ้านให้เกิดความรักสามัคคี เอาคนเลวออกจากคนดี เอาคนที่หลงผิดอยู่ไปบำบัดรักษา กลับคืนสู่อ้อมอกสังคมเดิม