จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่ รวมถึงสร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตร ล่าสุดรัฐบาลเร่งช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่พื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย จ่ายสูงสุด 30 ไร่/ครัวเรือน
โดยจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัยพิบัติ จึงจะได้รับการช่วยเหลือตามพื้นที่เสียหายจริง ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ แบ่งเป็นดังนี้
-ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท
-พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท
-ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท
หลังจากที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว เกษตรกรต้องยื่นแบบขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) โดยให้ ผู้ใหญ่บ้าน/ กำนัน/ อบต. หรือนายกเทศมนตรีรับรอง จากนั้นจะมีการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกรและพื้นที่เสียหายจริง เพื่อช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้จากการสำรวจ ข้อมูล ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2564 มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแล้ว จำนวน 5,192,164 ไร่ ใน 43 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ แพร่ พะเยา พิจิตร พิษณุโลก ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุทัยธานี
กรุงเทพมหานคร ชัยนาท ลพบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี สระบุรี อ่างทอง กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ เลย นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ระยอง และจังหวัดสระแก้ว
ขณะนี้มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินรวมแล้ว 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร ตาก เพชรบูรณ์ พิจิตร ลำปาง สุโขทัย อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ และจังหวัดสุพรรณบุรี โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจะเร่งดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 อย่างโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัด หรือกรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 02-579-0121 ถึง 27
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยคู่ฟ้า