20 มีนาคม 2564 ร.ต.ท.ปรเมษฐ์ ศรีหาเมฆ ร้อยเวร สภ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนกับรถบรรทุกพ่วง ที่บริเวณสี่แยกเทคนิคหนองบัวลำภู ถนนรอบเมืองหนองบัวลำภู มีผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้บาดเจ็บสาหัส จึงได้เดินทางยังบริเวณสถานที่เกิดเหตุ พบรถมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้านเทนา สีดำคาดน้ำเงินชมพูไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มอยู่กลางถนนบริเวณสี่แยกดังกล่าว สภาพล้อด้านหน้าบิดเบี้ยว ส่วนรถพ่วงคู่กรณีได้จอดอยู่ริมถนนห่างจากที่เกิดเหตุ ประมาณ 100 เมตร ส่วนผู้บาดเจ็บ ชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้แจ้งว่า ชื่อ นายสงกรานต์ อุประ ไม่ทราบอายุ เป็นชาวบ้านตำแย หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลหนองบัวลำภู ได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภูและทราบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังจาก บันทึกตรวจสอบบริเวณสถานที่เกิดเหตุแล้ว ร.ต.ท.ปรเมษฐ์ ศรีหาเมฆ ได้ไปสอบสวนคนขับรถพ่วงบรรทุก เป็นลักษณะรถพ่วงยาว พ่วงเดียว พบ นายเกษมสิทธิ์ โสมัตนัย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 หมู่ที่ 2 ต.ห้วยโจด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้ยืนรอเจ้าหน้าทีอยู่ โดยได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังเกิดเหตุก็ได้ชะลอรถมาหยุดริมถนนและเดินกลับไปดูผู้บาดเจ็บ ไม่ได้คิดจะหลบหนี แต่ก็รู้สึกตกใจเพราะไม่เคยเจอสถการณ์อย่างนี้ ซึ่งช่วงที่รถตัวเองจะผ่านเป็นช่วงที่ไฟเขียวกำลังจะหมดไฟเขียวพอดี ซึ่งช่วงที่ตัวเองมามองแล้วก็ไม่เห็นรถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าว จนมารู้ว่ารถเหยียบอะไรเข้าสักอย่าง จึงได้หยุดรถและพบว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์มาชนเข้าที่บริเวณช่วงล้อหลังด้านขวามือช่วงกลางรถ จึงได้ยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งวันนี้ได้ขับรถมาจาก อำเภอกระนวน จ.ขอนแก่น จะไปที่ อ.วังสะพุง จ.เลย เพื่อไปบรรทุกเอากากอ้อยไปยังจังหวัดขอนแก่น
นอกจากนั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังทำการสอบปากคำ นายเกษมสิทธิ์ โสมัตนัย คนขับรถพ่วงบรรทุกอยู่นั้น คนขับรถพ่วง ยังรู้สึกตกใจกังวลใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลัวความผิดและเป็นห่วงกลัวว่าคนเจ็บจะเสียชีวิตเพราะรู้สึกสงสาร ได้มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับแสดงตัวว่า ชื่อ นายบุญศรี นครศรี อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 3 บ้านโนนคูณ ต.โนนขมิ้น อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู พร้อมกับแจ้งว่าตัวเองเป็นฝ่ายปกครอง เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโนนคูณ มาแจ้งว่า
ขณะเกิดเหตุการณ์ ตนเองขับรถจะไปส่งหลานไปเข้าค่ายที่โรงเรียนจริยานุสรณ์ รถติดไฟแดงอยู่ฝั่งตรงข้ามพอดี เห็นว่ารถทุกคันต่างจอดรอไฟแดงอยู่ ส่วนเส้นทางหลักเป็นไฟเขียว แต่ก็เห็นมอเตอร์ไซค์คันเกิดเหตุวิ่งฝ่าไฟแดงมา จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น หลังเกิดอุบัติเหตุก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ และเห็นว่ารถบรรทุกเมื่อเกิดเหตุแล้วก็ไม่ได้หลบหนี้ จึงอยากมาเป็นพยานให้ อยากให้คนที่ทำมาหากินบนท้องถนนได้รับความเป็นธรรม ผมจะช่วยเขาไม่ผิด ไม่ได้ขับรถประมาทและผมก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ต้องการให้ได้รับความเป็นธรรม พอได้ยินคำพูดนั้น นายเกษมสิทธิ์ โสมัตนัย ถึงกับนั่งลงไหว้ริมข้างถนน น้ำตาไหล ที่ได้รับน้ำใจจาก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนที่ยอมเสียสละเวลามา เป็นพยานให้
ทางด้าน นายเกษมสิทธิ์ โสมัตนัย เล่า ทั้งขณะน้ำตาซึมว่า ที่มีผู้มาเป็นพยานรู้สึกขอบคุณ หายากในสังคมขณะนี้คนที่จะเสียสละมาช่วยเหลือทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตนเอง เพราะสังคมทุกวันนี้เหมือนมีแต่การสอนให้คนเห็นแก่ตัวขึ้น ซึ่งก็รู้สึกสบายใจขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงคนเจ็บ รู้สึกสงสาร ส่วนตัวแล้วก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำ ขับรถรับจ้าง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อว่า ใครผิดใครถูกต้องตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม และจะเรียกผู้เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำอีกครั้งหนึ่ง และกำลังติดต่อขอตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของร้านค้า เพื่อตรวจสอบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวว่า เป็นอย่างไร โดยที่ผ่านมาเมื่อมีอุบัติเหตุ หรือเกิดเหตุการณ์สำคัญเจ้าหน้าที่จะต้องไปของตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามร้านค้าของเอกชน และยังพบว่ามีอีกหลายจุดสำคัญที่ยังไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบเหตุ ระวังภัย ต่างๆที่ เป็นภัยต่อชีวิตทรัพย์สินของประชาชน