โควิดคร่า ช่างเย็บผ้าชาวอุดรฯ กลับจาก กทม. ติดเชื้อ ดับรายที่ 10 ของจังหวัด ภาพรวมผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ก.ค. 2564 นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.)อุดรธานี พญ.สุรีรัตน์ วัชรสุวรรณเสรี อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่ จ.อุดรธานี มีการค้นพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ต่อเนื่องมาตั้งแต่นโยบายปิดแคมป์คนงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดย จ.อุดรธานีได้ใช้มาตรการคัดกรองและกักกันผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 22 จังหวัด ทุกคนต้องตรวจหาเชื้อและกักกันตัว 14 วัน ยกเว้นผู้ได้รับวัคซีนตามประกาศ
นายอุเทน เปิดเผยว่า อุดรธานีตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 26 ราย ทำให้มียอดสะสม 783 ราย รักษาหายกลับบ้าน 513 ราย รักษาตัวอยู่ 215 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 10 ราย หลังมาตรการปิดแคมป์คนงาน อุดรธานีได้ตรวจคักกรองผู้มาจากพื้นที่เสี่ยง 22 จังหวัด ที่สนามบอน, สถานีรถไฟ, สถานีขนส่ง, ด่านบนถนนมิตรภาพ อ.โนนสะอาด, ด่านถนนอุดร-หนองบัวลำภู อ.หนองวัวซอ รวมถึงการค้นหาด้วยผู้ใหญ่บ้าน และอสม.ในส่วนที่ไม่ผ่านการคัดกรอง
นายอุเทน กล่าวต่อว่า จ.อุดรธานี ตรวจหาเชื้อเพื่อคัดกรองผู้เดินทางมา พร้อมตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยทางเดินหายใจ ช่วงนี้มากถึงวันละ 2,400 ราย โดยการตรวจแบบ PCR พบผู้ติดเชื้อสูงถึง 4.31 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่ 1-2 ก.ค. ตรวจพบผู้ติดเชื้อมากถึง 58 ราย เป็นรายที่ติดเชื้อภายในกันเอง และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่แล้ว 8 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยง 50 ราย แยกเป็น กทม. 39 ราย, ระยอง 3 ราย, ประจวบฯ 2 ราย, ปทุมธานี 1 ราย, สมุทรสาคร 1 ราย, ยังไม่ชัดเจน 2 ราย และตรวจพบที่กรุงเทพฯ ติดต่อขอมารักษาที่อุดรฯ 2 ราย ถูกส่งเข้า รพ.ทั้งหมด ตัดวงจรแพร่เชื้อทันที ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงน้อยมาก
รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่ตรวจไม่พบการติดเชื้อ จะเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (Local Quarantine) ที่มีอยู่ในทุกอำเภอ บางอำเภอมีระดับตำบล เพื่อให้ใกล้กับภูมิลำเนา ตั้งแต่เย็น 28 มิ.ย.ถึงขณะนี้มียอดสะสม 671 ราย อยู่ที่ศูนย์โฮมฮักอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 147 ราย ศูนย์ฯ ตำบล อ.เมือง 77 ราย ที่เหลือกระจายอยู่ทุกอำเภอ ประกอบด้วย อ.บ้านดุง 160 ราย , อ.บ้านผือ 57 ราย อ.วังสามหมอ 46 ราย และอำเภออื่น ๆ ต่ำสุด อ.ประจักษ์ศิลปาคม ยังไม่มีผู้กักตัว ทุกวันจะได้รับการตรวจติดตามดูแลสุขภาพ และตรวจหาเชื้ออีกครั้งเมื่อครบ 7 วัน
นายอุเทน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยของอุดรฯ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายพันธุ์เดลตา จึงกำหนดไว้ในมาตรการผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 22 จังหวัด หากฉีดวัคซีนซิโนแวค และซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ผ่านมาแล้ว 4 สัปดาห์ หรือฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนกา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 1 เข็มผ่านมาแล้ว 4 สัปดาห์ จะได้รับสิทธิเข้าอุดรฯ โดยไม่ต้องกักตัว
ด้านพญ.สุรีรัตน์ เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้ป่วยรายที่ 511 เป็นชาย อายุ 42 ปี ชาว ต.บุ่งแก้ว อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี อาชีพช่างเย็บผ้าที่กรุงเทพฯ มีอาการไอ หายใจไม่สะดวก ไปตรวจเชื้อที่ รพ.กลาง กทม.ไม่พบเชื้อ ได้เดินทางกลับบ้านเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ไปตรวจที่ รพ.โนนสะอาด พบเชื้อ ถูกส่งต่อมา รพ.กุมภวาปี ในวันที่ 23 มิ.ย. จากนั้นถูกส่งตัวมา รพ.อุดรธานี ผู้ป่วยไม่มีโรคประจำตัว แต่มีประวัติใช้ยาเสพติดหลายชนิด มีอาการปอดติดเชื้อ กระทั่งเสียชีวิตเมื่อเวลา 09.42 น. วันที่ 2 ก.ค.
“รพ.ศูนย์อุดรธานี รับผู้ป่วยไว้รักษา 88 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 9 ราย ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ 2 ราย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันสูง 7 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยต้องให้ออกซิเจน 14 ราย ภาพรวมผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง ติดเชื้อโควิดมาพอสมควร และมีอาการปอดเริ่มติดเชื้อ โดยเชื้อจะมีความรุนแรง มากกว่าเชื้อในผู้ป่วยกลุ่มแรกๆ ทำให้ รพ.ศูนย์อุดรธานี จะเปิดตึกผู้ป่วยโควิดเพิ่ม และมีแผนจะใช้ รพ.สนามที่หอพักมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (สามพร้าว) ในวันที่ 5 ก.ค.นี้” พญ.สุรีรัตน์ กล่าว