เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ซึ่งได้สนับสนุนอากาศยานและกำลังพลในการร่วมปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทำให้สามารถจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงได้ จำนวน 13 หน่วยปฏิบัติการ กระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาค ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติการฝนหลวงเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วง และการเติมน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ โดยไม่มีวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เนื่องด้วยการปฏิบัติการฝนหลวงเป็นการทำงานที่ต้องมีการติดตามเงื่อนไขของสภาพอากาศตลอดทุกวัน ซึ่งหากสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการแล้ว ทั้ง 13 หน่วยปฏิบัติการ ก็พร้อมที่จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทันที
สำหรับในการดูแลพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศในขณะนี้ ได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกและความต้องการน้ำในพื้นที่การเกษตร อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.64 ซึ่งพบว่า พื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ปลูกข้าวนาปี โดยบริเวณพื้นที่ลุ่มต้นข้าวอยู่ในระยะกล้าสูง 30 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่นาดอนต้นกล้าเริ่มขาดน้ำและดินแห้งบางส่วน โดยยังมีนาข้าวที่เริ่มหว่าน และคาดว่าจะมีความต้องการน้ำในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งกรมฝนหลวงและการเกษตร โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกและความต้องการน้ำของพืชอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือต่อไป ขณะเดียวกัน ด้านผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 12 หน่วยปฏิบัติการทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี ขอนแก่น หนองบัวลาภู ชัยภูมิ มหาสารคาม อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อานาจเจริญ เพชรบุรี และพัทลุง สามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อน จำนวน 7 แห่ง และอ่างเก็บน้ำ จำนวน 3 แห่ง
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า มีบริเวณพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 4 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ลพบุรี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.อุทัยธานี และจ.ชัยนาท หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ขอนแก่น มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และจ.หนองบัวลำภู หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุราษฎร์ธานี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สงขลา มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.พัทลุง
อย่างไรก็ตาม สำหรับ 10 หน่วยปฏิบัติการ จะติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100