ฝนหลวงฯ เร่งช่วยพื้นที่เกษตรภาคกลาง พบปัญหาฝนทิ้งช่วง-ปริมาณน้ำสะสมน้อย

กรมฝนหลวงฯ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในภาคกลางที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง และมีปริมาณน้ำฝนสะสมรายสัปดาห์น้อย

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.64) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรี ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักในพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว อ่างเก็บน้ำห้วยหนองโรง ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตร อ.บ้านไร่ อ.สว่างอารมณ์ อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี อ.หนองมะโมง อ.วัดสิงห์ อ.เนินขาม อ.หันคา จ.ชัยนาท อ.ชุมตาบง อ.เมืองนครสวรรค์ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ และพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว จ.อุทัยธานี อ่างเก็บน้ำห้วยหนองโรง จ.ชัยนาท และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรี ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักในพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตร อ.ดอนเจดีย์ อ.หนองหญ้าไซ อ.อู่ทอง อ.สามชุก อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี อ.ทองผาภูมิ อ.ไทรโยค อ.ศรีสวัสดิ์ อ.บ่อพลอย อ.เลาขวัญ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี สอดคล้องกับข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมรายสัปดาห์บริเวณภาคกลาง ที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมในระดับน้อยกว่า 10 มิลลิเมตร โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นาข้าว และพืชไร่ ได้แก่ ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ซึ่งทางกรมฝนหลวงฯ จะนำมาวางแผนและขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนต่อไป

นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า มีบริเวณพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 8 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่ หน่วยฯ จ.ลพบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ชัยนาท จ.อุทัยธานี จ.นครสวรรค์ จ.ลพบุรี หน่วยฯ จ.กายจนบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กาญจนบุรี จ.สุพรรณบุรี หน่วยฯ จ.ขอนแก่น ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.เลย จ.ขอนแก่น จ.หนองบัวลำภู หน่วยฯ จ.อุบลราชานี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร จ.ศรีสะเกษ จ.อำนาจเจริญ หน่วยฯ จ.สุรินทร์ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์ จ.ร้อยเอ็ด จ.บุรีรัมย์ หน่วยฯ จ.นครราชสีมา ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา และหน่วยฯ จ.สุราษฎร์ธานี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.พัทลุง

อย่างไรก็ตาม สำหรับ 5 หน่วยปฏิบัติการ จะติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100