พบเบาะแสลักลอบขุดดินในที่ดินของรัฐ 2 จุด ใน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู และ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ป.ป.ช.ภาค 4 เร่งตรวจสอบ เชื่อมโยงบริษัทเอกชนรับเหมาโครงการปรับปรุงถนน และเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ?
The EXIT ลงพื้นที่ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีการลักลอบขุดดินในที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อนำไปใช้ก่อสร้างถนน จากการลงพื้นที่เบื้องต้น พบว่า แม้ตอนนี้จะมีการนำดินกลับมาถมคืน แต่ ส.ป.ก. จ.หนองบัวลำภู ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดแล้ว
ที่ดินแปลงที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ อยู่ติดริมถนนทางหลวงหมายเลข 2097 ช่วงนาคำไฮ-หนองแวง ได้รับการยืนยันจากผู้ร้องเรียน ว่ามีการลักลอบขุดและนำดินออกนอกพื้นที่จริง โดยมีคลิปภาพที่บันทึกไว้ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นหลักฐาน ลักษณะการขุดเป็นบ่อขนาด 30 คูณ 30 เมตร ความลึก 3-4 เมตร แต่สภาพพื้นที่ปัจจุบัน ที่ทีมข่าวลงตรวจสอบ พบมีการนำดินกลับมาถม บางจุดมีการยกร่อง ลักษณะคล้ายเตรียมพื้นที่เพาะปลูก
ส.ป.ก.จังหวัดหนองบัวลำภู ยืนยันว่า ที่ดินแปลงดังกล่าว อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินจริง และตามระเบียบการใช้ประโยชน์ อนุญาตให้เกษตรกรสามารถขุดบ่อหรือสระน้ำได้ไม่เกินร้อยละ 5 ของพื้นที่เท่านั้น ไม่อนุญาตให้มีการนำดินออกนอกพื้นที่ กรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย
หลังจาก ป.ป.ช.ภาค 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ต่อมาพบ รถ และเครื่องจักร ของบริษัทรับเหมาโครงการปรับปรุงถนน หยุดทำงาน ซึ่งเรื่องนี้ ถูกตั้งข้อสังเกตจากผู้ร้องเรียนอีกว่า เป็นเพราะผู้รับเหมาไม่มีแหล่งดิน ที่จะนำมาใช้ดำเนินการต่อหรือไม่
ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงหนองบัวลำภู ในฐานะเจ้าของโครงการและผู้ว่าจ้าง ชี้แจงว่า ตามขั้นตอน บริษัทผู้รับเหมา จะต้องมีแหล่งดิน ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย มาใช้ดำเนินการตามแผนการจ้าง และแขวงมี “นายช่าง” ทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบ ให้เป็นไปตามสัญญา ประเด็นที่มีการร้องเรียน ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนการสอบสวน โดยเบื้องต้นยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่พบความผิดปกติ
ทีมข่าวตรวจสอบเอกสารสัญญาจ้างเลขที่ นภ./32/2564 ระหว่าง แขวงทางหลวงหนองบัวลำภู และบริษัทเอกชน พบว่า โครงการนี้เป็นการจ้างเหมาทำโครงการพัฒนาทางหลวงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจราจร งบประมาณ 28 ล้าน 7 แสนบาท ระยะเวลาดำเนินการ 180 วัน โดยการประมูลงานผ่านระบบ E-bidding พื้นที่โครงการ อยู่ระหว่างรอยต่อ ต.นาด่าน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู และ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ตามขั้นตอน ดินที่นำมาใช้ในโครงการ จะต้องระบุแหล่งที่มา และผ่านการตรวจคุณภาพ เพื่อคำนวณการใช้น้ำบดอัด ตามหลักวิศวกรรม ให้การก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐาน
กรณีนี้ นอกจากถูกตั้งข้อสังเกต การลักลอบขุดและนำดินออกจากที่ดิน ส.ป.ก. กลุ่มผู้ร้องเรียน ยังเรียกร้องให้ตรวจสอบ ความโปร่งใสของโครงการ ที่อาจจะส่งผลต่อคุณภาพถนนในอนาคต ล่าสุด ป.ป.ช.ภาค 4 รับเรื่องร้องเรียน และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามขั้นตอน
พบลักลอบขุดดินเพิ่มในพื้นที่ “ป่าสงวนแห่งชาติ”
ห่างจากจุดที่พบการลักลอบขุดดิน ในที่ดิน ส.ป.ก. อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ราว 2 กิโลเมตร ทีมข่าวได้รับแจ้ง ว่าในเขต อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พบการลักลอบขุดดินในลักษณะเดียวกัน
“อ่างเก็บน้ำบ้านหนองแวง” มองเห็นร่องรอยการขุดดินในหลายจุด ลักษณะเป็นการเลือกขุด ไม่ใช่การขุดลอกแหล่งน้ำ ที่ปกติจะต้องเป็นไปตามรูปแบบ เพื่อปรับความลาดเอียงของพื้นที่
จากพิกัดพื้นที่อ่างเก็บน้ำบ้านหนองแวง พบว่า พื้นที่ดังกล่าว อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขือน้ำ โดยมีกรมชลประทานขอนุญาตใช้พื้นที่ เพื่อทำอ่างเก็บน้ำ
แต่ด้วยลักษณะปัจจุบัน ที่พบว่ามีสันดอน บางจุดตื้นเขิน ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ประกอบกับผู้นำท้องถิ่น อ้างว่า ที่ผ่านมาไม่มีงบประมาณขุดลอก เมื่อมีเอกชนเข้ามาเสนอขุดลอก แลกกับนำดินออกไป จึงได้ทำประชาคมหมู่บ้าน โดยไม่ทราบข้อเท็จจริง ว่าเป็นที่ดิน ที่จะต้องดำเนินการขออนุญาตตามกฎหมาย จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พบร่องรอยการขุดใหม่ทั้งหมด 2 จุด เป็นลักษณะการขุดที่เห็นได้ชัดเจนว่า มีเป้าหมายต้องการนำดินออกนอกพื้นที่
ทีมข่าวประสานไปยัง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดอุดรธานี ได้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่พบร่องรอยการขุดตักหน้าดิน และนำดินออกจากพื้นที่ พบเป็นรอยขุดตักใหม่ ทั้งหมด 2 จุด
จุดแรกเนื้อที่ประมาณ 0.3 ไร่ ลึก 1.5 เมตร และจุดที่ 2 0.026 ไร่ ลึก 2 เมตร พร้อมระบุว่า กรณีเป็นการกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2507 มาตรา 14 ฐานยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัย ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านผือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เครือข่ายภาคประชาชน ยังคงเดินหน้ายื่นเอกสารหลักฐาน เพื่อร้องของให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเอกสารหลักฐานยืนยันแหล่งที่มา และการตรวจวัดคุณภาพดินที่นำมาใช้ในขั้นตอนการปรับปรุงถนน.
ชมคลิปข่าว